วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
แปลเพลง
เนื้อเพลง เพลง 파자마 파티 (Pajama Party)
ศิลปิน Super Junior HAPPY -
อัลบั้ม Cooking King (Cooking? Cooking!)
Pajama Party
RAP>
한번 두번 세번 몇 번의 만남에
ฮันบอน ทูบอน เซบอน มยอช บอนเน มันนัมเม
(1 ครั้ง 2ครั้ง 3ครั้ง ไม่วาพบกันกี่ครั้ง)
난 네게 FEEL이 꽂혔어.
นัน เน กเย ฟีลลี โกซฮยอซซอ
(ผมจะทำให้คุณรู้สึกติดใจ)
그녀의 눈빛도 내게로 어느새 난
คือนยอ เอ นุนบิชโด แนเกโร ออนือแซ นัน
(แววตาของเทอก็ด้วย ที่มองมาทางผม)
비트에 리듬에 몸을 실어 남자답게 OKAY~
พีทือ เอ รีดึมเม โมมมึล ชิลรอ นัมจาดับเก OKAY~
(ทำให้การเต้นจังหวะของหัวใจผมมันสมกับผู้ชาย OKAY~)
모든 준비는 끝났어 자, one two three Let`s Go
โมดึน ชุนบีนึน กึทนัซซอ จา , one two three Let`s Go
(เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว งั้นก็ , one two three Let`s Go)
우리 오늘 밤 PARTY해요
อูรี โอนึล บัม PARTY แฮโย
(คืนนี้พวกเรามา ปาร์ตี้กัน)
그대 위해 멋진 밤을 만들게요
คือแก วีแฮ มอซจิน พัมมึล มันดึลเกโย
(เพื่อเธอผมจะทำคืนที่ประทับใจให้นะ)
이미 우리 서로 FEEL이 통했다는 것을
อีมี อูรี ซอโร ฟีลลี ทงแฮซดานึน กอซซึล
(ก่อนอื่นเราต้องมีสิ่งที่จะทำให้เรารู้สึกถึงกัน)
아는데 뭘 그래요
อานึนเด มวอล คือแรโย
(ก้สิ่งนั้นไง)
향기 나는 촛불도 샀구요
ฮยังกี นานึน โชซ บุลโด ซัซกูโย
(กลิ่นหอมของเทียนหอมที่ผมได้ซื้อมา)
내 방 가득 채울 풍선도 샀어요
แน บัง กาดึค แชอุล พุงซอนโด ซัซซอโย
(ในห้องของผมก็จะเต็มไปด้วยลูกโป่งที่ซื้อมา)
제일 고르기 힘들었던 건 오늘 밤 입을 PAJAMA
เชอิล โกรือกี ฮิมดึลรอซดอน โอนึล บัม อิบบึล PAJAMA
(สิ่งที่เลือกมาอย่างลำบากที่สุด วันนี้เราจะใส่ ชุดนอนกัน)
**
PAJAMA 입고 PAJAMA 입고
PAJAMA อิบโก PAJAMA อิบโก
(สวมPAJAMA และก็ สวมPAJAMA)
우리 오늘 밤 멋진 파티를 해요
อูรี โอนึล บัม มอซจิน พาที รึล แฮโย
(ค่ำคืนนี้เราจะมาทำปาร์ตี้ที่น่าประัทับใจกัน)
우리 둘이 신나게 놀아요.
อูรี ดุลรี ชินนาเก นลลาโย
(เรา2คนจะเล่นกันอย่างสนุกสนาน)
영화처럼요 베개 싸움도 해요
ยองฮวาชอรอมโย เบเก ซาอุมโด แฮโย
(เราจะเล่นปาหมอนเหมือนในหนังเลย)
눈처럼 하얀 베갯속 세상 우리 둘이 신나게 즐겨요
นุนชอรอม ฮายัน เบแกซโซก เซซัง อูรี ดุลรอ ชินนาเก จึล กยอ โย
(โลกนุ่นสีขาวที่เหมือนกับหิมะพวกเรา2คนเล่นกันอย่างสนุกสนาน)
RAP)
오랜만에 청소도 정말 오랜만에 빨래도
โอแรนมันเน ชองโซโด จองมัล โอแรนมันเน ปัลแรโด
(ถึงจะต้องทำความสะอาดนาน ซักผ้านานด้วยก้ตาม)
입술 터지도록 풍선도 정신없이 바쁜 온 종일...
อิบซุล ทอจีโด โรก พุงซอนโด จองชินอ็อบชี พาปึน โอน
จงอิล
(จนปากจะแห้งผากอย่างลูกโป่งฟีบๆ..วันที่แสนวุ่นวาย.. )
시장에 가서 장 보고 또 요리도
ชีจังเง กาซอ จัง โบโก โต โยรีโด
(ไปที่ตลาด หาซื้อน้ำปลา และก็เริ่มทำอาหารอีก)
직접 해보고 어쩜 혹시 사랑이? 너무나도 행복해~!
ชิกจอบ แฮโบโก ออจอม ฮกชี ซารังงี ? นอมูนาโด
แฮงโบ๊คเค~!
(ลองทำอาหารด้วยตัวเอง จะรู้มั้ยนะว่ารัก? เฮ้อ มีความสุขจัง~!)
혼자 사는 내 방 어떤가요
ฮนจา ซานึน แน บัง ออตอนกาโย
(ี่ห้องที่ผมอยู่คนเดียวเป็นยังไง)
내가 직접 만든 저녁은 어때요?
แนกา ชิกจอบ มันดึน จอ นยอก กึน ออแตโย ?
(อาหารเย็นที่ผมทำเป็นยังไงหรอ)
그대 오늘밤 더 예쁘네요 특히 그대의 PAJAMA
คือแก โอนึลบัม ทอ เยปือเนโย ทึกคี คือแดเอ PAJAMA
(คืนนี้คุณสวยจังเลยนะ โดยเฉพาะชุดนอนของคุณน่ะ)
**
PAJAMA 입고 PAJAMA 입고
PAJAMA อิบโก PAJAMA อิบโก
(ใส่PAJAMAและก็ ใส่PAJAMA และก็)
우리 오늘 밤 멋진 파티를 해요
อูรี โอนึล บัม มอซจิน พาทีรึล แฮโย
(ทำปาร์ตี้คืนนี้ของเราให้เท่ไปเลย)
우리 둘이 신나게 놀아요
อูรี ดุลรี ชินนาเก นลราโย
(เรา2คนจะเล่นกันอย่างสนุกสนาน)
소파 위에서 침대 위에서 우리 뛰어요
โซพา วีเอซอ ชิมแด วีเอซอ อูรี ตวีออโย
(พวกเราจะกระโดดบนโซฟา บนเตียง)
어린 애처럼 마구 하늘 높이 뛰어요 신나게
ออริน แอชอรอม มากู ฮานึล โนพี ตวีออโย ชินนาเอ
(เหมือนเด็กๆเล่นตามใจชอบ โดดไปสูงๆถึงท้องฟ้าเลยนะ)
그러다가 지치면 괜히 분위기 잡혀
คือรอากา ชีชีมยอน คแวนฮี บุนวีกี ชับฮยอ
혹시 엉큼한 생각 슬쩍 들지도 몰라
ฮกชี ออง คึม ฮัน แซงกัก ซึลจอก ดึลจีโด มลรา
RAP>
걱정은 저기 버리고
คอกจองงึน จอกี บอรีโก
(ทิ้งความกังวลไว้ที่นั่น)
그대 앞에 내사랑 순수하죠 알겠죠?
คือแก อัพเพ แนซารัง ซุนซู ฮาจโย อัลเกซจโย ?
(รักที่บริสุทธิ์ของผมที่สื่อให้คุณ รุ้ใช่ไหม?)
이제 다시 뛰어요 더 높이~
ออเจ ทาชี ตวีออโย ทอ โนพพี
(ตอนนี้ เรามากระโดดอีกครั้ง ให้สูงกว่านี้นะ)
**
PAJAMA 입고 PAJAMA 입고
PAJAMA อิบโก PAJAMA อิบโก
(ใส่PAJAMAและก็ ใส่PAJAMA และก็)
우리 오늘 밤 멋진 파티를 해요
อูรี โอนึล บัม มอซจิน พาทีรึล แฮโย
(ทำปาร์ตี้คืนนี้ของเราให้เท่ไปเลย)
우리 둘이 신나게 놀아요
อูรี ดุลรี ชินนาเก นลราโย
(เรา2คนจะเล่นกันอย่างสนุกสนาน)
멋진 음악과 하얀 샴페인
มอซจิน อึมมักกวา ฮายัน ซยัมเพอิน
(ทั่้งเพลงที่ไพเราะและไวน์ขาว)
그대 향기와 그대 행복한 웃음
คือแด ฮยังกีวา คือแด แฮงโบคฮัน อุซซึม
(กลื่นหอมของเทอและยิ้มที่มีความสุขของเทอ)
RAP>
세상 가장 행복한 그대와 지금 이순간
เซซัง กาจัง แฮงโบคฮัน คือแดวา ชีกึม อีซุนกัน
(ช่วงเวลานี้ทีได้อยุ่กับคุณนั้นช่างเป็นโลกที่มีแต่ความสุข)
**
PAJAMA!!! PAJAMA PARTY!!!
신나게 놀아요 우리
ชินนาเก นลราโย อูรี
(เล่นกันอย่างสนุกสนาน)
우리 둘이 신나게 놀아요
อูรี ทุลรี ชินนาเก นลลาโย
(เรา2คนเล่นกันอย่างสนุกสนาน)
PAJAMA!!! PAJAMA PARTY!!!
오늘 밤 멋진 파티를 해요
โอนึล บัม มอซจิน พาทีรึล แฮโย
(คืนนี้มาทำปาร์ตี้ที่สนุกสนานกัน)
아침이 올 때까지 그대와
อาชิมมี โอล แตกาจี คือแดวา
(จนกระทั่งเช้า ก้จะอยู่กับเทอนานๆ และตลอดไป)
아주 오래 그대와 영원히
อาจู โอแร คือแดวา ยองวอนฮี
วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
การ์ตูน [รีบอร์น]*

กีฬา

ประวัติ
กีฬาวอลเลย์บอลเกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1895 โดยนายวิลเลียม จี มอร์แกน ผู้อำนวยการฝ่ายพลศึกษาของสมาคม Y.M.C.A. เมืองฮอลโยค มลรัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นผู้คิดเกมการเล่นขึ้น เพื่อตอบสนอง ประยุกต์กีฬาให้สามารถเล่นในฤดูหนาวได้
ขาได้เกิดแนวความคิดที่จะนำลักษณะและวิธีการ เล่นของกีฬาเทนนิสมาดัดแปลงใช้เล่น จึงใช้ตาข่ายเทนนิสซึ่งระหว่างเสาโรงยิมเนเซียม สูงจากพื้นประมาณ 2 ฟุต 1 นิ้ว และใช้ยางในของลูกบาสเกตบอลสูบลมให้แน่น แล้วใช้มือและแขนตีโต้ข้ามตาข่ายกันไปมา แต่เนื่องจากยางในของลูกบาสเกตบอลเบาเกินไป ทำให้ลูกบอลเคลื่อนที่ช้าและทิศทางที่เคลื่อนไปไม่แน่นอน จึงเปลี่ยนมาใช้ลูกบาสเกตบอล แต่ลูกบาสเกตบอลก็ใหญ่ หนักและแข็งเกินไป ทำให้มือของผู้เล่นได้รับบาดเจ็บ
จนในที่สุดเขาจึงให้บริษัท Ant G. Spalding and Brother Company ผลิตลูกบอลที่หุ้มด้วยหนังและบุด้วย ยาง มีเส้นรอบวง 25-27 นิ้ว มีน้ำหนัก 8-12 ออนซ์ หลังจากทดลองเล่นแล้ว เขาจึงชื่อเกมการเล่นนี้ว่า "มินโตเนต" (Mintonette)
ปี ค.ศ. 1896 มีการประชุมสัมมนาผู้นำทางพลศึกษาที่วิทยาลัยสปริงฟิลด์ (Spring-field College) นายวิลเลียม จี มอร์แกน ได้สาธิตวิธีการเล่นต่อหน้าที่ประชุมหลังจากที่ประชุมได้ชมการสาธิต ศาสตราจารย์ อัลเฟรด ที เฮลสเตด ( Alfred T. Helstead) ได้เสนอแนะให้มอร์แกนเปลี่ยนจากมินโตเนต (Mintonette) เป็น "วอลเลย์บอล" (Volleyball) โดยให้ความเห็นว่าเป็นวิธีการเล่นโต้ลูกบอลให้ลอยข้า
ปี ค.ศ. 1928 ดอกเตอร์ จอร์จ เจ ฟิเชอร์ (Dr. George J. Fisher) ได้ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงกติกาการเล่นวอลเลย์บอล เพื่อใช้ในการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลในระดับชาติ และได้เผยแพร่กีฬาวอลเลย์บอลจนได้รับสมญานามว่า บิดาแห่งกีฬาวอลเลย์บอล
วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
หมาลัยในใจคุณ


มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (Assumption University) หรือ เอแบค (ABAC) มหาวิทยาลัยเอกชน ในเครือคณะภารดาเซนต์คาเบรียล มี 3 วิทยาเขตตั้งอยู่ที่เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการและ city campus ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญยังเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทยที่มีระบบการสอนหลักสูตรนานาชาติ
ประวัติ

มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ พัฒนามาจาก "โรงเรียนอัสสัมชัญพานิชยการ" ซึ่งก่อตั้งในปี พ.ศ. 2512 และได้รับวิทยฐานะเป็น "โรงเรียนอัสสัมชัญบริหารธุรกิจ" ในปี พ.ศ. 2515 สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 ย้ายสังกัดมาอยู่ทบวงมหาวิทยาลัยโดยเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "วิทยาลัยอัสสัมชัญบริหารธุรกิจ ) " หรือ Assumption Business Administration College ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเอแบค (ABAC) และเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2533 ได้รับการเลื่อนวิทยฐานะเป็นมหาวิทยาลัย และได้ชื่อว่า "มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ" โดยมหาวิทยาลัยได้ใช้ตัวอักษรย่อในภาษาไทยว่า มอช. และภาษาอังกฤษว่า "AU" ซึ่งทำให้อักษรชื่อย่อของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญมีความสัมพันธ์ กับสัญลักษณ์ทางเคมี คือ Au (ทองคำ)

“ Labor Omnia Vincit (วิริยะ อุตสาหะ นำมาซึงความสำเร็จทั้งปวง) ”
ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย : ต้นอโศก (Ashoka Tree) คือ ต้นไม้สัญลักษณ์มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า พอลิแอลเธีย ลองจิโฟเลีย (Polyalthea longifolia) มีแหล่งกำเนิดในอินเดียและศรีลังกา เหตุผลที่มหาวิทยาลัยเลือกต้นอโศกเป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยเพราะ
เป็นต้นไม้ที่เขียวอยู่ตลอดเวลา แสดงถึงความสดชื่นร่มเย็น ความคงเส้นคงวาต่อความเปลี่ยนแปลงของดินฟ้าอากาศ หมายความว่า มหาวิทยาลัยจะมีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุพันธกิจ ในการให้การศึกษาที่ดีเลิศ โดยไม่ย่อท่อต่ออุปสรรคใด ๆ
เป็นต้นไม้ที่รูปทรงสวยงาม เหมือนสถูปเจดีย์
เป็นมงคลนาม หมายถึง ไม่มีความทุกข์ความโศก และยังเป็นชื่อของกษัตย์อินเดียผู้ยิ่งใหญ่คือ พระเจ้าอโศกมหาราช ที่สร้างอาณาจักรที่เกรียงไกรให้กับอินเดีย และทนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้มีความเจริญสูงสุดในยุคนั้น
เป็นต้นไม้ที่นำจากอินเดียสู่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยมูลนิธิภราดาคณะเซนต์คาเบรียล โดยนำมาปลูกพร้อมกันครั้งแรกที่ โรงเรียนเซนต์คาเบรียล และกรมป่าไม้
แม่พระองค์แห่งปรีชาญาณ หรือ Sedes Sapientiæ

ความรัก

ความรักเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต แม้จะไม่มากพอที่จะทำลายตนเอง หรือรู้สึกถูกใจอีกฝ่ายตั้งแต่แรกเห็น คล้ายรักแรกพบ ความดึงดูดใจซึ่งกันและกัน การแสดงออกมาทั้งคำพูดและการแสดงความใกล้ชิด อยากเจอกันทุกวัน ถ้าเป็นไปได้ วาดฝันเกี่ยวกับอีกฝ่ายไว้งดงาม และไม่ได้คาดการณ์ถึงอุปสรรคใดๆ คู่รักประเภทนี้พยายามพัฒนาสัมพันธภาพกับคู่ของตนอย่างรวดเร็ว โดยการเปิดเผย ซื่อสัตย์ และจริงใจ ใส่ใจคู่รักมากเป็นพิเศษ แต่ไม่แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของหรือกลัวว่าจะมีคู่แข่ง


ความรักพัฒนามาจากมิตรภาพ เป็นความรู้สึกรักใคร่อันเนื่องมาจากการคบหากันมาเป็นเวลานาน ไม่ได้มีความ รู้สึกตื่นเต้น เร่าร้อน แต่เน้นการกระทำที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกันและมีกิจกรรมร่วมกัน ความรักเป็นสิ่งที่มั่นคง ที่ผนวกเข้าไปกับการดำรงชีวิตตามปกติ

ผู้ที่มีความรักแบบนี้จะใฝ่หาความรัก แต่เชื่อว่าความรักเป็นความเจ็บปวด ปรารถนาความใกล้ชิดและต้องการความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ต้องการให้คู่รักของตนแสดงความรักมากกว่าปกติ เมื่อใดที่คู่รักไม่ได้แสดงความใส่ใจ หรือไม่แสดงความรักตามที่ปรารถนา อาจจะทำร้ายตนเอง เพื่อเอาชนะความรัก คู่รักประเภทนี้เชื่อว่า เมื่อปราศจากความรักจากอีกฝ่าย ชีวิตก็ไม่มีคุณค่าอีกต่อไป


เหตุผลที่ผู้หญิงมากมายทุกข์ใจ จากการเดท ก็เพราะพวกเธอเชื่อว่า โลกนี้มีผู้ชาย แค่คนเดียวที่ถูกสร้างมาเพื่อเธอ
ความรัก มีหลากแบบ ความรัก เกิดได้หลายแบบ และความรัก ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แต่ยังไง ๆ เรื่องความรัก ก็ยังมีเรื่องให้คนต้องการรัก หรือคนมีรัก ได้รับการเซอร์ไพรส์อยู่เสมอ ซึ่งวันนี้เราก็มีเรื่องเกี่ยวกับ มหัศจรรย์ของความรักมาให้อ่านกันด้วยค่ะ . . . เอ่อ ว่าแต่รักของคุณเป็นเช่นนี้อ่ะเปล่าเอ่ย?
คนที่ใช่ ไม่ได้มีเพียงคนเดียว ถ้าคุณคิดว่าคุณทำคู่แท้หลุดมือไปแล้วล่ะก็ อย่าเสียใจไปเลย โลกนี้เต็มไปด้วย ผู้ชายที่มีแนวโน้มจะเป็นคนที่ใช่เยอะแยะ “เหตุผลที่ผู้หญิงมากมายทุกข์ใจ จากการเดท ก็เพราะพวกเธอเชื่อว่า โลกนี้มีผู้ชาย แค่คนเดียวที่ถูกสร้างมาเพื่อเธอ”
รักแรกพบมีจริง มันเป็นไปได้ ที่เราจะรักใครซักคน ที่เพิ่งเจอแค่แป๊ปเดียว “ทางชีวภาพสัตว์ต้องหาคู่ให้ได้ ก่อนฤดูผสมพันธุ์สิ้นสุด ก็เลยถูกตาต้องใจกันอย่างเร็ว” ในเมื่อสมองเราส่งสารแบบนั้น เราก็เลยสามารถตอบโต้ ตัวกระตุ้นความชอบ ภาษากายและความเข้ากันได้อย่างรวดเร็ว
อยู่ห่างๆ กันบ้างก็ดี ในขณะที่คุณกำลังคลั่งรักหัวปักหัวปำ สิ่งที่คุณอยากทำก็คือ เอาอกเอาใจเขา และอยากเกาะติดเขาแจได้ทั้งวันทั้งคืน “การอยู่ห่างกันทำให้สารเคมีแห่งความรัก อย่างโดพามีนและนอเรฟฟินเนฟฟิลในสมองเพิ่มผลผลิต”
ความรักไม่ใช่เรื่องของอารมณ์ ความรักกระตุ้นสมองส่วนที่สัมพันธ์กับการจดจ่อไปที่แรงจูงใจ และแรงผลักดัน ซึ่งตรงข้ามกับสมองส่วนความรู้สึก เช่นความสุขหรือความเศร้า ตอนนี้เราก็รู้แล้วว่า ทำไมเราถึงว้าวุ่นใจเป็นพิเศษ สำหรับคนที่ทำให้ชีพจรเราเต้นรัว
ความรักเป็นสิ่งเสพติด เมื่อเราดูรูปคนรักเก่า ส่วนของสมองที่เกี่ยวข้อง กับการเสพติดแอคทีฟเป็นพิเศษเลย โดพามีนถูกหลั่งออกมา แล้วเราก็รู้สึกเคลิบเคลิ้ม จิตใจหวั่นไหวล่องลอยอย่างแรง เหมือนใช้ยาเสพติดเลย นั่นคือสาเหตุที่เราโหยหาหวานใจเราไง
ผู้ชายรักง่ายกว่าผู้หญิง เรามีแนวโน้มจะคิดว่าผู้หญิงรีบร้อนที่จะมีรัก แต่ความจริงผู้ชายเป็นอย่างนั้นมากกว่า “สมองผู้ชายติดตั้งสัญญาณเกี่ยวกับการมองเห็นมากกว่า” ดังนั้น เมื่อหนุ่มเห็นสาวที่ทำให้เครื่องเขาติด ก็จะมีแรงไปกระตุ้นสมองส่วนพิเศษที่มีเฉพาะในเพศชาย
การเมือง


